ทุกคนอาจจะมองว่าเรื่องของการ นอนห่มผ้า นั้นอาจจะต้องเกี่ยวกับประเทศที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น แต่แท้จริงแล้วการห่มผ้านั้นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญของคนทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศที่มี อากาศร้อน หรืออากาศหนาว เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับดำรงชีวิต การนอนหลับให้มีประสิทธิภาพ อย่างบ้านเราเองซึ่งเป็นประเทศที่เป็นเมืองร้อน ก็มีการผลิตผ้าห่มชนิดต่างๆ ทั้งผ้าหนา และผ้าบางออกมาในตลาด เพื่อให้เหมาะสมกับการนำไปใช้ในแต่ละฤดูกาล พฤติกรรมการนอนของคนเรานั้นแตกต่างกันไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติ บางคนนอนดึก บางคนนอนหัวค่ำ บางคนนอนตะแคง บางคนชอบที่จะนอนฟูกที่นอนไม่นิ่มเกินไปมากว่าแบบนิ่มๆ บางคนชอบนอนหมอนหนุนหัวนุ่มๆ ฯลฯ แต่จะมีสิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมเหมือนกัน คือ ในเรื่องของการ ติดผ้าห่ม นั้นเอง อาจจะมีเหตุผลมาจากทางด้านธรรมชาติของร่างกายและด้านพฤติกรรมดังต่อไปนี้ อุณหภูมิของร่างกายที่เปลี่ยนไป เมื่อคนเรามีอย่างหนึ่งที่เรียกว่า นาฬิกาชีวิต (Body Clock) เป็นระบบการทำงานของร่างกายอย่างหนึ่งที่เป็นวงจรทุกๆ 24 ชั่วโมง การควบคุมอุณหภูมิของร่างกายในขณะตื่นและขณะหลับ ถ้าอธิบายให้เข้าใจง่ายมากที่สุดก็คือ ก่อนที่เราจะเข้านอน อุณหภูมิร่างกายของคนเราจะค่อยๆ ลดต่ำลงจนเกิดความรู้สึกง่วงนอน และเมื่อหลับไปแล้วอุณหภูมิร่างกายก็ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงจุดต่ำสุด เป็นกลไกลการลดอุณหภูมิของร่างกายเพื่อให้หลับสนิท จนถึงจุดที่เรียกว่า Rapid Eye Movement Sleep (REM Sleep) หรือที่เรียกว่า ช่วงหลับฝัน ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายนอนหลับสนิท ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ด้วยตนเอง เราจึงควรนอนห่มผ้า รักษาอุณหภูมิของเราไว้ นอนห่มผ้า ช่วยกักเก็บอุณหภูมิ ผ้าห่มช่วยให้เราหลับสบายยิ่งขึ้น ผ้าห่มอาจเป็นส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการหลั่งฮอร์โมนเซโรโทนินของสมอง ซึ่งเซโรโทนิน (Serotonin) สามารถเปลี่ยนไปเป็นเมลาโทนิน (Melatonin) หรือสารเคมีที่ควบคุมวงจรในการนอนและตื่นได้ ทำให้คนที่ชอบนอนห่มผ้า มีความรู้สึกสงบ นอนหลับสนิท และเข้าใจว่าเป็นคนติดผ้าห่ม ไม่ว่าอากาศจะร้อนหรือหนาว ถ้าไม่มีผ้าห่มจะรู้สึกว่านอนไม่หลับ สิ่งที่สำคัญอย่างมากของการ นอนห่มผ้า คือ ตอนที่ร่างกายหลับสนิทที่เรียกว่า ช่วงหลับฝัน และอุณหภูมิร่างกายลดต่ำลงเรื่อยๆ เราไม่สามารถควบคุมได้ การมีผ้าห่มคลุมร่างกายของเราไว้ เป็นตัวช่วย “เก็บความร้อน” ของร่างกายเรา และมีผลทำให้ร่างกายเราอบอุ่นอยู่เสมอ ความเคยชินในวัยเด็ก บางคนอาจจะชินกับการ นอนห่มผ้า มาตั้งแต่เด็ก รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ตอนที่เรายังเป็นเด็กทารกแรกเกิด พ่อและแม่ของเราจะใช้ผ้าห่มห่อหรือพันร่างกายลูกไว้เพื่อรักษาอุณหภูมิให้ลูกรู้สึกอบอุ่นอยู่เสมอ หรือช่วงเวลาตอนที่พ่อแม่เอาลูกน้อยเข้านอนก็จะต้องมีผ้าห่มสักผืนคลุมร่างกายของลูกไว้ เราจึงเรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้ว่า ผ้าห่ม และ การนอนเป็นของคู่กัน เมื่อใดที่เราห่มผ้า ก็จะรู้สึกอยากพักผ่อนเข้านอนแล้ว เป็นการเรียนรู้จากพฤติกรรมสมัยเด็ก จริงๆ แล้วอาจจะยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้ใครหลายๆ คนชอบนอนห่มผ้า ถึงแม้อากาศจะร้อน นอกเหนือจากสาเหตุหลักที่กล่าวมาข้างต้น เช่น ห่มแล้วช่วยลดแสงสว่าง : ผ้าห่มช่วยบังแสงสว่าง ช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น ห่มแล้วช่วยลดเสียงรบกวน : ผ้าห่มช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก ห่มแล้วความรู้สึกปลอดภัย : ผ้าห่มอาจช่วยให้รู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล ปรับวิธีการนอนห่มผ้าให้เหมาะกับอากาศร้อน อย่างไรก็ตาม การนอนห่มผ้าในอากาศร้อน อาจทำให้รู้สึกอึดอัด ร้อน เหงื่อออก และนอนหลับไม่สบายได้ เราจึงควรมีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อยเพื่อการนอนของเราให้มีประสิทธิภาพ ดังนี้ เลือกผ้าห่มที่บางเบา ระบายอากาศได้ดี : เช่น ผ้าห่มใยสังเคราะห์ ผ้าห่มคอตตอน โดยที่ความหนาบางและน้ำหนักของผ้าห่มมีความพอดี ไม่หนาจนเกินไป เปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศ : ให้ลมเย็นๆ พัดผ่าน โดยอุณหภูมิห้องที่เหมาะพอดีกับการนอนพักผ่อนอยู่ที่ประมาณ 19 – 23 องศาเซลเซียส อาบน้ำเย็นก่อนนอน : ถึงแม้หลังจากอาบน้ำเย็นเราจะรู้สึกว่าตื่นตัว ตาสว่าง แต่จริงๆแล้ว การอาบน้ำเย็นนอกจากจะช่วยให้ร่างกายเย็นสบาย ยังทำให้ร่างกายเกิดการผ่อนคลาย พร้อมสำหรับการนอนหลับสนิทในค่ำคืนนั้น ก่อนเข้านอน 1 – 2 ชั่วโมง ดื่มน้ำสักแก้ว : ช่วยเติมเต็มน้ำให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ ปรับพวกฮอร์โมน ระดับพลังงานให้ร่างกายให้สมดุลขณะหลับ เพิ่มประสิทธิภาพการนอนให้ดีขึ้น และตื่นเช้ามาด้วยร่างกายที่ปรี้กระเปร่า
แม้อากาศจะร้อน แต่ก็ชอบนอนห่มผ้า เพราะอะไรเราถึงติดผ้าห่ม ?
ทุกคนอาจจะมองว่าเรื่องของการ นอนห่มผ้า นั้นอาจจะต้องเกี่ยวกับประเทศที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น แต่แท้จริงแล้วการห่มผ้านั้นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญของคนทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศที่มี อากาศร้อน หรืออากาศหนาว เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับดำรงชีวิต การนอนหลับให้มีประสิทธิภาพ อย่างบ้านเราเองซึ่งเป็นประเทศที่เป็นเมืองร้อน ก็มีการผลิตผ้าห่มชนิดต่างๆ ทั้งผ้าหนา และผ้าบางออกมาในตลาด เพื่อให้เหมาะสมกับการนำไปใช้ในแต่ละฤดูกาล
พฤติกรรมการนอนของคนเรานั้นแตกต่างกันไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติ บางคนนอนดึก บางคนนอนหัวค่ำ บางคนนอนตะแคง บางคนชอบที่จะนอนฟูกที่นอนไม่นิ่มเกินไปมากว่าแบบนิ่มๆ บางคนชอบนอนหมอนหนุนหัวนุ่มๆ ฯลฯ
แต่จะมีสิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมเหมือนกัน คือ ในเรื่องของการ ติดผ้าห่ม นั้นเอง อาจจะมีเหตุผลมาจากทางด้านธรรมชาติของร่างกายและด้านพฤติกรรมดังต่อไปนี้
อุณหภูมิของร่างกายที่เปลี่ยนไป
เมื่อคนเรามีอย่างหนึ่งที่เรียกว่า นาฬิกาชีวิต (Body Clock) เป็นระบบการทำงานของร่างกายอย่างหนึ่งที่เป็นวงจรทุกๆ 24 ชั่วโมง การควบคุมอุณหภูมิของร่างกายในขณะตื่นและขณะหลับ ถ้าอธิบายให้เข้าใจง่ายมากที่สุดก็คือ ก่อนที่เราจะเข้านอน อุณหภูมิร่างกายของคนเราจะค่อยๆ ลดต่ำลงจนเกิดความรู้สึกง่วงนอน และเมื่อหลับไปแล้วอุณหภูมิร่างกายก็ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงจุดต่ำสุด เป็นกลไกลการลดอุณหภูมิของร่างกายเพื่อให้หลับสนิท จนถึงจุดที่เรียกว่า Rapid Eye Movement Sleep (REM Sleep) หรือที่เรียกว่า ช่วงหลับฝัน ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายนอนหลับสนิท ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ด้วยตนเอง เราจึงควรนอนห่มผ้า รักษาอุณหภูมิของเราไว้
นอนห่มผ้า ช่วยกักเก็บอุณหภูมิ
ผ้าห่มช่วยให้เราหลับสบายยิ่งขึ้น ผ้าห่มอาจเป็นส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการหลั่งฮอร์โมนเซโรโทนินของสมอง ซึ่งเซโรโทนิน (Serotonin) สามารถเปลี่ยนไปเป็นเมลาโทนิน (Melatonin) หรือสารเคมีที่ควบคุมวงจรในการนอนและตื่นได้ ทำให้คนที่ชอบนอนห่มผ้า มีความรู้สึกสงบ นอนหลับสนิท และเข้าใจว่าเป็นคนติดผ้าห่ม ไม่ว่าอากาศจะร้อนหรือหนาว ถ้าไม่มีผ้าห่มจะรู้สึกว่านอนไม่หลับ
สิ่งที่สำคัญอย่างมากของการ นอนห่มผ้า คือ ตอนที่ร่างกายหลับสนิทที่เรียกว่า ช่วงหลับฝัน และอุณหภูมิร่างกายลดต่ำลงเรื่อยๆ เราไม่สามารถควบคุมได้ การมีผ้าห่มคลุมร่างกายของเราไว้ เป็นตัวช่วย “เก็บความร้อน” ของร่างกายเรา และมีผลทำให้ร่างกายเราอบอุ่นอยู่เสมอ
ความเคยชินในวัยเด็ก
บางคนอาจจะชินกับการ นอนห่มผ้า มาตั้งแต่เด็ก รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ตอนที่เรายังเป็นเด็กทารกแรกเกิด พ่อและแม่ของเราจะใช้ผ้าห่มห่อหรือพันร่างกายลูกไว้เพื่อรักษาอุณหภูมิให้ลูกรู้สึกอบอุ่นอยู่เสมอ หรือช่วงเวลาตอนที่พ่อแม่เอาลูกน้อยเข้านอนก็จะต้องมีผ้าห่มสักผืนคลุมร่างกายของลูกไว้
เราจึงเรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้ว่า ผ้าห่ม และ การนอนเป็นของคู่กัน เมื่อใดที่เราห่มผ้า ก็จะรู้สึกอยากพักผ่อนเข้านอนแล้ว เป็นการเรียนรู้จากพฤติกรรมสมัยเด็ก
จริงๆ แล้วอาจจะยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้ใครหลายๆ คนชอบนอนห่มผ้า ถึงแม้อากาศจะร้อน นอกเหนือจากสาเหตุหลักที่กล่าวมาข้างต้น เช่น
ปรับวิธีการนอนห่มผ้าให้เหมาะกับอากาศร้อน
อย่างไรก็ตาม การนอนห่มผ้าในอากาศร้อน อาจทำให้รู้สึกอึดอัด ร้อน เหงื่อออก และนอนหลับไม่สบายได้ เราจึงควรมีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อยเพื่อการนอนของเราให้มีประสิทธิภาพ ดังนี้