ต้องยอมรับเลยว่า..วงการอุตสาหกรรมสิ่งทอในปัจจุบันนั้นพัฒนาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดจึงได้มีการผลิตเนื้อผ้าแบบต่างๆ ออกมามากมาย เพื่อให้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นในการนำไปผลิตเป็นสินค้ารูปแบบอื่นได้อย่างหลากหลาย และเพื่อให้ตรงกับความต้องการและตรงตามจุดประสงค์การนำไปใช้ของลูกค้ามากที่สุด และด้วยสิ่งนี้อาจทำให้เกิดผลิตภัณฑ์สิ่งทอ เช่น ชนิดเนื้อผ้า ที่มีหน้าตาเหมือนกัน แต่ต่างกันที่กระบวนการผลิตและคุณสมบัติ ตัวอย่างเช่น ผ้าสำลี กับ ผ้าฟลีซ ซึ่งอาจทำให้บางคนเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าผ้า 2 ชนิดนี้คือชนิดเดียวกันนั้นเอง… ความแตกต่างของเนื้อผ้าฟลีซ และ เนื้อผ้าสำลีที่หลายคนสับสนและยังไม่เข้าใจ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักของผ้าทั้งสองชนิดให้กระจ่างมากยิ่งขึ้น เพื่อให้แต่ละท่านได้ตัดสินใจง่ายยิ่งขึ้นในการนำไปเลือกใช้ให้เหมาะสม ผ้าสำลี หรือ ผ้าคอตตอน คือ เป็นผ้าขูดขนที่ผลิตจากเส้นใยคอตตอน (cotton) ซึ่งได้มาจากการนำเส้นใยของปุยฝ้าย (cotton fiber) มาปั่นจนกลายเป็นเส้นด้าย แล้วนำเอามาถักทอจนได้เป็นผ้า ซึ่งในอดีตเป็นชนิดผ้าที่คนนิยมนำมาใช้กันอย่างมาก และส่งผลให้ชื่อนี้ยังถูกเรียกติดปากจนถึงปัจจุบัน คุณสมบัติเด่นของผ้าสำลี 1. ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ มีความอ่อนโยนต่อผิว เนื้อผ้าจะมีความนุ่มเบาสบาย ไม่กระด้าง 2. เป็นผ้าที่ให้ความอบอุ่นได้ดี 3. สามารถระบายความร้อนได้ดี 4. หากต้องการให้ผ้ามีความแข็งแรงทนทาน การถักทอต้องมีความหนาแน่นมากพอ 5. คุณสมบัติอีกอย่างของผ้าสำลีคือ สามารถดูดความชื้นได้ดี เหมาะสำหรับทำผ้าขนหนูเช็ดตัว เป็นต้น ผ้าสำลี ผ้าคอตตอน ข้อเสีย : ปัญหาที่มักจะพบเจอ คือ 1. เนื่องจากเป็นเส้นใยธรรมชาติ การซักทำความสะอาดไม่ใส่ใจเท่าที่ควร ตากไม่แห้งสนิท อาจก่อให้เกิดเชื้อราในเส้นใยผ้าได้ 2. ส่วนในเรื่องของต้นทุนการผลิต : ราคาปุยฝ้ายปรับเปลี่ยนขึ้นอยู่ผลผลิตในแต่ฤดูกาล ค่อนข้างควบคุมยาก 3. ผ้าจากเส้นใยฝ้าย อาจะเกิดการเปลี่ยนของรูปร่างหน้าตา เช่น ผ้าหด ผ้ายวยได้ ผ้าฟลีซ คือ เป็นผ้าขูดขน ผลิตจากเส้นใย polyester 100 % ถักทอแน่นละเอียด ลักษณะหน้าตาของผ้าจะเป็นเนื้อเรียบ ผิวสัมผัสอ่อนนุ่ม สีสันสวยงาม มีความหนาตามสเปคของการผลิต โดยเริ่มแรกนั้น ผ้าห่มฟลีซถูกผลิตขึ้นมาเพื่อมาทดแทนผ้าขนสัตว์แท้ ซึ่งในปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้มีการนำผ้าฟลีซมาผลิตเป็นสินค้าต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ผ้าห่มฟลีซ ผ้าพันคอ เสื้อผ้า เสื้อกันหนาว ถุงมือ หมวก ชุดเด็กเล็ก เป็นต้น เพราะด้วยคุณสมบัติเด่นๆ ที่ดีไม่น้อยไปกว่าผ้าสำลี คุณสมบัติเด่นของผ้าฟลีซ 1. น้ำหนักเบา : เนื้อผ้าฟลีซมีน้ำหนักที่เบา เมื่อเทียบกับประเภทผ้าขนสัตว์ ทำให้ผ้าฟลีซเหมาะสำหรับกับการพกพาเดินทางได้สะดวก 2. ให้ความอบอุ่นดี : สามารถกักเก็บความร้อนได้ดีกว่าผ้าทั่วไป หรือเมื่อเทียบกับผ้าห่มที่มีน้ำหนักเบาคล้ายๆ กัน อย่างเช่น ผ้าแพร 3. ผ้านุ่ม ไม่ระคายเคืองผิวง่าย : เนื้อผ้ามีสัมผัสที่นุ่มพอสมควร ไม่กระด้าง ไม่อมฝุ่น เนื้อผ้ามีความยืดหยุ่น แต่ไม่ย้วยง่าย 4. แห้งไว : สามารถซักทำความสะอาดได้ง่ายด้วยมือหรือซักด้วยเครื่องซักปกติ ทั้งยังแห้งเร็ว ลดการก่อเกิดเชื้อราในเส้นใยผ้า สีไม่ตก 5. ทนทาน : โครงสร้างเนื้อผ้ามีการถักทอแน่นละเอียด ทนทาน ซักทำความสะอาดได้บ่อย รูปร่างหน้าตาเนื้อผ้าก็ไม่เปลี่ยน ไม่หด ไม่ย้วยแม้ผ่านการใช้งานหลายปี 6. ราคาไม่สูงจนเกินไป ผู้ผลิตสามารถควบคุมต้นทุนได้ ผ้าฟลีซ ข้อเสีย : เนื่องจากเป็นเส้นใยสังเคราะห์ การดูดซึมความชื้นอาจจะทำได้ไม่ดีเท่าผ้าลำสี ผ้าฟลีซอุ่นไหม หากนำมาทำเป็นผ้าห่ม ? ทุกคนอาจจะมีข้อสงสัยว่าแล้วถ้าหากนำผ้าฟลีซมาตัดเย็บทำเป็นผ้าห่มหรือเสื้อผ้ากันหนาวนั้น จะอุ่นจริงๆ หรอ…..ซึ่งจริงๆ แล้ว ผ้าฟลีซนั้นสามารถให้ความอบอุ่นได้ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับสเปคของผ้าฟลีซที่นำมาใช้ ซึ่งด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันของอุตสาหกรรมสิ่งทอมีความสามารถผลิตผ้าฟลีซออกมาได้หลากหลายสเปค ให้ตรงกับความต้องการที่จะทำไปใช้ในแต่ละรูปแบบของสินค้า แต่สำหรับบ้านเรา ห่มผ้าห่มฟลีซหรือใส่เสื้อฟลีซ เดินในหนาวได้สบายๆ ถ้าอุณหภูมิอยู่ในช่วง 10 – 20 องศาเซลเซียส ผ้าฟลีซ ซักยังไงให้คงทนต่อการใช้งาน ? ในเรื่องของการดูแลรักษาทำความสะอาดของผ้าฟลีซนั้น ไม่มีอะไรยุ่งยากเลย ผ้าฟลีซโพลีเอสเตอร์สามารถซักเครื่องได้เลย เนื้อผ้ามีความทนทานต่อการปั่นของเครื่องซักผ้าในระดับหนึ่ง คำแนะนำการซักเพิ่มเติม 1. ห้ามใช้สารฟอกขาว แต่ควรใช้วิธีการขจัดคราบสกปรกเฉพาะจุดก่อนเพื่อให้ผ้าสะอาดหมดจด วิธีการขจัดคราบเฉพาะจุด : น้ำยาซักผ้าผสมน้ำอุ่น เทราดตรงบริเวณคราบเปื้อน จากนั้นขยี้ด้วยมือจนกว่าคราบนั้นจะจางออกให้ได้มากที่สุด พร้อมทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าตามปกติ คลิกอ่านบทความ >> How to ซักผ้าห่มอย่างไรให้สะอาด ไร้คราบขาว กลิ่นหอมติดทนเหมือนแม่ซักให้ 2. การซักด้วยเครื่องซักผ้านั้น ควรใช้โหมดการซักแบบถนอมผ้า ไม่ควรปั่นแรงจนเกินไป 3. สามารถอบฆ่าเชื้อทนความร้อนได้ ซึ่งสามารถทนความร้อนได้ในอุณหภูมิไม่เกิน 120 องศา 4. สะบัดผ้าห่มก่อนตากทุกครั้ง เพื่อให้ผ้าคายตัวไม่เป็นกระจุก ให้สามารถโดนแดดและผ้าแห้งง่ายขึ้น และช่วยลดการยับของเนื้อผ้าห่ม สรุป : ข้อได้เปรียบของผ้าฟลีซที่นำมาผลิตเป็นผ้าห่ม เสื้อผ้า หรือสินค้าต่างๆ นั้นก็คือ ต้นทุนราคาผ้าไม่แพงควบคุมได้ การที่ผ้าฟลีซมีลักษณะเป็นเนื้อผ้าขนเรียบ ผ้านุ่มไม่กระด้าง ไม่อมฝุ่น ให้ความอบอุ่นได้ดี ซักทำควาสะอาดง่ายไม่ยุ่งยาก ผ้าแห้งไว ลดการสะสมเชื้อราแบคทีเรียในเส้นใยผ้า เหมาะสำหรับเด็กเล็กเด็กอ่อน คนที่ผิวเซนซิทีฟง่าย หรือผู้ที่เป็นภูมิแพ้มากที่สุด
ผ้าฟลีซ ผ้าสำลี คือผ้าชนิดเดียวกันหรือไม่!? ความแตกต่างที่หลายคนยังไม่เข้าใจ
ต้องยอมรับเลยว่า..วงการอุตสาหกรรมสิ่งทอในปัจจุบันนั้นพัฒนาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดจึงได้มีการผลิตเนื้อผ้าแบบต่างๆ ออกมามากมาย เพื่อให้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นในการนำไปผลิตเป็นสินค้ารูปแบบอื่นได้อย่างหลากหลาย และเพื่อให้ตรงกับความต้องการและตรงตามจุดประสงค์การนำไปใช้ของลูกค้ามากที่สุด และด้วยสิ่งนี้อาจทำให้เกิดผลิตภัณฑ์สิ่งทอ เช่น ชนิดเนื้อผ้า ที่มีหน้าตาเหมือนกัน แต่ต่างกันที่กระบวนการผลิตและคุณสมบัติ ตัวอย่างเช่น ผ้าสำลี กับ ผ้าฟลีซ ซึ่งอาจทำให้บางคนเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าผ้า 2 ชนิดนี้คือชนิดเดียวกันนั้นเอง…
ความแตกต่างของเนื้อผ้าฟลีซ และ เนื้อผ้าสำลีที่หลายคนสับสนและยังไม่เข้าใจ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักของผ้าทั้งสองชนิดให้กระจ่างมากยิ่งขึ้น เพื่อให้แต่ละท่านได้ตัดสินใจง่ายยิ่งขึ้นในการนำไปเลือกใช้ให้เหมาะสม
ผ้าสำลี หรือ ผ้าคอตตอน คือ
เป็นผ้าขูดขนที่ผลิตจากเส้นใยคอตตอน (cotton) ซึ่งได้มาจากการนำเส้นใยของปุยฝ้าย (cotton fiber) มาปั่นจนกลายเป็นเส้นด้าย แล้วนำเอามาถักทอจนได้เป็นผ้า ซึ่งในอดีตเป็นชนิดผ้าที่คนนิยมนำมาใช้กันอย่างมาก และส่งผลให้ชื่อนี้ยังถูกเรียกติดปากจนถึงปัจจุบัน
คุณสมบัติเด่นของผ้าสำลี
1. ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ มีความอ่อนโยนต่อผิว เนื้อผ้าจะมีความนุ่มเบาสบาย ไม่กระด้าง
2. เป็นผ้าที่ให้ความอบอุ่นได้ดี
3. สามารถระบายความร้อนได้ดี
4. หากต้องการให้ผ้ามีความแข็งแรงทนทาน การถักทอต้องมีความหนาแน่นมากพอ
5. คุณสมบัติอีกอย่างของผ้าสำลีคือ สามารถดูดความชื้นได้ดี เหมาะสำหรับทำผ้าขนหนูเช็ดตัว เป็นต้น
ผ้าสำลี ผ้าคอตตอน ข้อเสีย : ปัญหาที่มักจะพบเจอ คือ
1. เนื่องจากเป็นเส้นใยธรรมชาติ การซักทำความสะอาดไม่ใส่ใจเท่าที่ควร ตากไม่แห้งสนิท อาจก่อให้เกิดเชื้อราในเส้นใยผ้าได้
2. ส่วนในเรื่องของต้นทุนการผลิต : ราคาปุยฝ้ายปรับเปลี่ยนขึ้นอยู่ผลผลิตในแต่ฤดูกาล ค่อนข้างควบคุมยาก
3. ผ้าจากเส้นใยฝ้าย อาจะเกิดการเปลี่ยนของรูปร่างหน้าตา เช่น ผ้าหด ผ้ายวยได้
ผ้าฟลีซ คือ
เป็นผ้าขูดขน ผลิตจากเส้นใย polyester 100 % ถักทอแน่นละเอียด ลักษณะหน้าตาของผ้าจะเป็นเนื้อเรียบ ผิวสัมผัสอ่อนนุ่ม สีสันสวยงาม มีความหนาตามสเปคของการผลิต โดยเริ่มแรกนั้น ผ้าห่มฟลีซถูกผลิตขึ้นมาเพื่อมาทดแทนผ้าขนสัตว์แท้ ซึ่งในปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้มีการนำผ้าฟลีซมาผลิตเป็นสินค้าต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ผ้าห่มฟลีซ ผ้าพันคอ เสื้อผ้า เสื้อกันหนาว ถุงมือ หมวก ชุดเด็กเล็ก เป็นต้น เพราะด้วยคุณสมบัติเด่นๆ ที่ดีไม่น้อยไปกว่าผ้าสำลี
คุณสมบัติเด่นของผ้าฟลีซ
1. น้ำหนักเบา : เนื้อผ้าฟลีซมีน้ำหนักที่เบา เมื่อเทียบกับประเภทผ้าขนสัตว์ ทำให้ผ้าฟลีซเหมาะสำหรับกับการพกพาเดินทางได้สะดวก
2. ให้ความอบอุ่นดี : สามารถกักเก็บความร้อนได้ดีกว่าผ้าทั่วไป หรือเมื่อเทียบกับผ้าห่มที่มีน้ำหนักเบาคล้ายๆ กัน อย่างเช่น ผ้าแพร
3. ผ้านุ่ม ไม่ระคายเคืองผิวง่าย : เนื้อผ้ามีสัมผัสที่นุ่มพอสมควร ไม่กระด้าง ไม่อมฝุ่น เนื้อผ้ามีความยืดหยุ่น แต่ไม่ย้วยง่าย
4. แห้งไว : สามารถซักทำความสะอาดได้ง่ายด้วยมือหรือซักด้วยเครื่องซักปกติ ทั้งยังแห้งเร็ว ลดการก่อเกิดเชื้อราในเส้นใยผ้า สีไม่ตก
5. ทนทาน : โครงสร้างเนื้อผ้ามีการถักทอแน่นละเอียด ทนทาน ซักทำความสะอาดได้บ่อย รูปร่างหน้าตาเนื้อผ้าก็ไม่เปลี่ยน ไม่หด ไม่ย้วยแม้ผ่านการใช้งานหลายปี
6. ราคาไม่สูงจนเกินไป ผู้ผลิตสามารถควบคุมต้นทุนได้
ผ้าฟลีซ ข้อเสีย : เนื่องจากเป็นเส้นใยสังเคราะห์ การดูดซึมความชื้นอาจจะทำได้ไม่ดีเท่าผ้าลำสี
ผ้าฟลีซอุ่นไหม หากนำมาทำเป็นผ้าห่ม ?
ทุกคนอาจจะมีข้อสงสัยว่าแล้วถ้าหากนำผ้าฟลีซมาตัดเย็บทำเป็นผ้าห่มหรือเสื้อผ้ากันหนาวนั้น จะอุ่นจริงๆ หรอ…..ซึ่งจริงๆ แล้ว ผ้าฟลีซนั้นสามารถให้ความอบอุ่นได้ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับสเปคของผ้าฟลีซที่นำมาใช้ ซึ่งด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันของอุตสาหกรรมสิ่งทอมีความสามารถผลิตผ้าฟลีซออกมาได้หลากหลายสเปค ให้ตรงกับความต้องการที่จะทำไปใช้ในแต่ละรูปแบบของสินค้า แต่สำหรับบ้านเรา ห่มผ้าห่มฟลีซหรือใส่เสื้อฟลีซ เดินในหนาวได้สบายๆ ถ้าอุณหภูมิอยู่ในช่วง 10 – 20 องศาเซลเซียส
ผ้าฟลีซ ซักยังไงให้คงทนต่อการใช้งาน ?
ในเรื่องของการดูแลรักษาทำความสะอาดของผ้าฟลีซนั้น ไม่มีอะไรยุ่งยากเลย ผ้าฟลีซโพลีเอสเตอร์สามารถซักเครื่องได้เลย เนื้อผ้ามีความทนทานต่อการปั่นของเครื่องซักผ้าในระดับหนึ่ง
คำแนะนำการซักเพิ่มเติม
1. ห้ามใช้สารฟอกขาว แต่ควรใช้วิธีการขจัดคราบสกปรกเฉพาะจุดก่อนเพื่อให้ผ้าสะอาดหมดจด
วิธีการขจัดคราบเฉพาะจุด : น้ำยาซักผ้าผสมน้ำอุ่น เทราดตรงบริเวณคราบเปื้อน จากนั้นขยี้ด้วยมือจนกว่าคราบนั้นจะจางออกให้ได้มากที่สุด พร้อมทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าตามปกติ คลิกอ่านบทความ >> How to ซักผ้าห่มอย่างไรให้สะอาด ไร้คราบขาว กลิ่นหอมติดทนเหมือนแม่ซักให้
2. การซักด้วยเครื่องซักผ้านั้น ควรใช้โหมดการซักแบบถนอมผ้า ไม่ควรปั่นแรงจนเกินไป
3. สามารถอบฆ่าเชื้อทนความร้อนได้ ซึ่งสามารถทนความร้อนได้ในอุณหภูมิไม่เกิน 120 องศา
4. สะบัดผ้าห่มก่อนตากทุกครั้ง เพื่อให้ผ้าคายตัวไม่เป็นกระจุก ให้สามารถโดนแดดและผ้าแห้งง่ายขึ้น และช่วยลดการยับของเนื้อผ้าห่ม
สรุป : ข้อได้เปรียบของผ้าฟลีซที่นำมาผลิตเป็นผ้าห่ม เสื้อผ้า หรือสินค้าต่างๆ นั้นก็คือ ต้นทุนราคาผ้าไม่แพงควบคุมได้ การที่ผ้าฟลีซมีลักษณะเป็นเนื้อผ้าขนเรียบ ผ้านุ่มไม่กระด้าง ไม่อมฝุ่น ให้ความอบอุ่นได้ดี ซักทำควาสะอาดง่ายไม่ยุ่งยาก ผ้าแห้งไว ลดการสะสมเชื้อราแบคทีเรียในเส้นใยผ้า เหมาะสำหรับเด็กเล็กเด็กอ่อน คนที่ผิวเซนซิทีฟง่าย หรือผู้ที่เป็นภูมิแพ้มากที่สุด